นิทาน-นินทา
นำเสนอโดย...ฐานทอง อยู่เย็น...
คนส่วนใหญ่ที่รู้จักผม รู้ว่าผมเป็นโหรคนหนึ่งในจำนวนที่มีอยู่มากมายแทบจะเหยียบกันตายในประเทศนี้ คงจะรู้แต่เรื่องโหร ๆ เรื่องอื่นคงไม่มีทาง หรืออาจรู้ ก็แค่หางอึ่ง เอาไปเทียบกับคนอื่นไม่ได้
ครับผมเป็นอย่างนั้นแหละ แต่อย่าลืมนะครับว่าคนแก่วัยใกล้วัดอย่างผม ก็ยังพอมีอะไรดี ๆ มาเล่าให้ท่านฟังเหมือนกัน จะว่าเป็นการนินทา หรือว่าเป็นนิทานก็ได้
เพราะสองคำนี้เขียนคล้ายกันมาก เพียงยกเอาตัว น หลังคำว่าทา มาไว้หน้าทา ก็จะเป็นนินทา ความหมายว่าพูดถึงเรื่องคนอื่นลับหลัง หรือคนที่หนึ่งกับคนที่สองพูดกันในเรื่องของคนที่สาม
ทีนี้ถ้าจะยกเอา น ไปไว้หลังสุด ก็จะอ่านว่านิทาน แปลตามใจผมว่าเรื่องที่เล่าสู่กันฟังสืบต่อกันมานาน ตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดจนมาถึงผม
แต่เรื่องที่ผมกำลังจะเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังต่อไปนี้ ผมจับเอาสองเรื่องมาผสมกัน เพื่อสร้างบรรยากาศให้ฟังดูแล้วสนุกสนาน มีรสชาติ คือจะเอาทั้งนิทานและนินทามารวมกัน ไม่งั้นจะไม่เป็นเรื่องหรือไม่เป็นสับปะรด ลองติดตามอ่านดูนะครับ
ผมจะขอเริ่มต้นว่า alongtimeago ณ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายแก่หัวขาวคนหนึ่ง มีนามตามท้องเรื่องว่า ปร.รับราชการบ้านเมืองมาจนได้กินตำแหน่งสูงในแผ่นดิน ยากที่ใครจะเทียบได้ ผู้น้อยต่างเกรงบารมีกันถ้วนหน้า ไม่ว่าฝ่ายบุ๋นหรือบู๊ในระดับใดต้องสยบให้ หากจะยกย่องว่าเป็นเสือใต้ที่มากด้วยบารมี ก็ไม่น่าจะเกินความจริง
อยู่มาวันหนึ่งมีสิงห์หนุ่มรูปงามนามเพราะ กล้ำกรายเข้ามาในถิ่นของเสือฒ่า นามตามท้องเรื่องว่า ทษ. นอกจากรูปงามยังพร้อมด้วยทรัพย์สินอันเป็นยอดปรารถนาของใคร ๆ ที่มีมากล้นฟ้าแทบว่ามิอาจล้างผลาญให้หมดสิ้นไปในชาตินี้
เป็นธรรมดาเมื่อได้หรือมีในสิ่งที่ปรารถนาครบถ้วนแล้ว ก็อยากจะได้สิ่งอื่นอีกไม่รู้จบสิ้น เมื่อเงินทองสินทรัพย์พร้อม ก็คืบคลานเข้าไปหาอำนาจ อันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครไม่ต้องการ ผมเองก็ต้องการเช่นกัน แต่ช่องทางไม่เคยเปิดอ้าให้ผมเลย คำแรกที่บ่ายโฉมหน้าไปสู่เส้นทางที่มีอำนาจรออยู่ท่านว่า ท่านได้ประโยชน์จากแผ่นดินนี้มากแล้ว อยากจะให้อะไรกับแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนบ้าง
ครับคำพูดหรู ๆ ที่ตาสีตาสาไม่เคยได้ยินกับหู มาได้ยินจากสิงห์หนุ่มรูปงามที่แสนจะร่ำรวยจนหาคนเทียบยาก ก็เกิดความเคลิบเคลิ้มไหลหลง เทน้ำใจให้เขาจนหมดสิ้น และไม่นานเขาก็ได้มาซึ่งอำนาจนั้น อำนาจเมื่อมีมามากก็ย่อมมีพวกมาก การมีพวกมาต้องใช้เงินมาก เมื่อต้องใช้เงินมาก ก็ต้องมีแผนการหาเงินที่แยบยลยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ใครจับได้ว่า ได้มาโดยมิชอบ กลายเป็นเมื่อต้องให้ประเทศชาติได้รับประโยชน์มากเท่าใด ท่านก็ต้องได้รับประโยชน์มากตามไปด้วย
เมื่ออำนาจและเงินล้นมือ ความฮึกเหิมก็ต้องเพิ่มปริมาณสูงขึ้น ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งจ้องมองตาเป็นมัน คร่ำครวญในอกและเหล่าบริวารใกล้ชิดว่า ขืนปล่อยให้สิงห์นุ่มคะนองลำพองใจดังที่เป็นอยู่ มิวายวันหนึ่งคงเอื้อมเด็ดดอกฟ้าที่ใคร ๆ เทิดทูนเป็นอย่างสูงสุดของชีวิต อย่ากระนั้นเลยควรคิดขจัดตัดไฟต้นลมให้จงได้
พอได้ทีเสือเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์ ก็กระซิบสั่งเสือหนุ่มในสังกัดอันมีนามว่า สธ. ให้จัดการขั้นเด็ดขาด แม้ต้องประหัตประหาร3ชั่วโคตรก็ยอม
และแล้วงานก็เป็นไปตามแผนลับทุกประการ ทำให้สิงห์เหนือผู้มีนาม ทษ. มิคาดคิดว่าเสือเฒ่าจะว่องไวปานงูองอางฉก เจ็บปวดรวดร้าวแทบจะขาดใจ ยากจะหาความชอกช้ำใดเทียบ
การสูญเสียอำนาจอย่างไม่คาดคิดและ การต้องเสียขุมทรัพย์ ยังเจ็บปวดไม่เท่ากับที่ต้องมาบ้านแตกสาแหรกขาด แยกทางกันเดินกับลูกเมียอันแสนรัก เช่นนี้ความแค้นต้องมีการชำระอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่ากาลเวลาใดเล่า จึงจะสามารถฝากแผลแค้นให้กับเสือเฒ่าได้ หรือจะรอให้เสือแก่ตายไปเอง ถ้าเช่นก็มิเท่ากับว่าความแค้นยังคุกรุ่นอยู่ในใจไร้การชำระสะสางหรือ?
การต้องพลัดพรากจากถ้ำและครอบครัวแสนรักของสิงห์เหนือ ทษ.ที่ถูกเสือใต้ ปร.ขย้ำโดยยืมมือลูกเสือรุ่นพันธ์ไทยผสมแขก สธ. เป็นหัวหอก
บางคราวคิดวนเวียนว่านี่เป็นเพราะเคราะห์กรรมใดหรือ? ทั้งที่ตนก็ไม่เคยมีอะไรผิดใจกัน เพียงต่างฝ่ายต่างเฉยเมย มิได้เข้าไปพินอบพิเทาเหมือนคนทั่วไป แค่นี้หรือที่ต้องกลายมาเป็นศัตรูแก่กันและกัน? จนประเทศชาติฉิบหาย
หรือว่ามิได้เป็นการสั่งการจากเสือเฒ่าหากเป็นการกระทำของเสือหนุ่มรุ่นคะนอง สธ.โดยพละการ แล้วแอบอ้างเอาบารมีเสือเฒ่ามาเป็นเครื่องปกป้องภัย หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้นภายหลัง
ถ้าเป็นดังนี้ใยเสือเฒ่าจึงส่งสมุนเมือขวานาม สรย.ที่จำศีลอยู่บนเขายายเที่ยง เข้ามาจัดการขวากหนามที่ยังมีหลงเหลืออยู่ พร้อมสร้างเครื่องมือคุ้มกัน เสือหนุ่ม สธ.ด้วยความเต็มใจ และเมื่อเสร็จภารกิจที่ได้รับมอบ สรย.ก็ได้รับความเมตตากลับสู่ถิ่นอำมาตย์เดิมอย่างมีเกียรติ ไม่ผิดกับขุนศึกผู้พิชิตจากสนามรบ
ครับนี่เป็นข้อคลางแคลงต่อเนื่องกันมานาน ยิ่งมาได้ยินการรับสารภาพของ สธ. กับเสเฒ่าคนหนึ่ง ว่าถึงตายก็พูดไม่ได้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำชัดว่าเบื้องลึกเบื้องหลัง ต้องมีคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ไม่น้อยคอยสั่งการอย่างแน่นอน เรื่องใหญ่ ๆ อันเกิดแก่ประเทศชาติ โดยยืมมือกองทัพมาใช้ คนอย่างเสือเฒ่า ปร.ผู้ไม่รู้จักตาย สูงด้วยวาสนาบารมีคับฟ้า ไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องจริงล่ะหรือ? อย่าว่าแต่อมพระมาพูดเลย ต่อให้อมวัดพระแก้วและวัดโพธิ์ทั้งสองวัดมาพูด ก็หาคนเชื่อได้ยาก
ที่เห็นชัดอีกเรื่องคือ ตอนเอาสมุนใกล้ชิดที่เคยรับใช้กันมานาน สมัยโน้นเรียกว่าเกสปาโปน หรือซีไอเอผมก็ไม่แน่ชัด เพราะวันเวลาผ่านมานาน ในรุ่นนี้ผมขอสมมุตินามว่าเสือขี้ยาเพราะเห็นคาบกล้องยาจนฟันดำ มาเป็นหัวหอกสร้างเครื่องกับดักเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ผุดได้เกิด จะเห็นได้ว่าถ้ำของสิงห์เหนือถูกประชุมเพลิงไปหลายรอบ มือขวาสองคนคือสิงห์เฒ่า สม. ตายเพราะงานอดิเรกทำกับข้าว อีกคนหนึ่งสิงห์ขี้แย สช. ก็เข้าทำนองคล้ายกัน คือตายแบบยังมีลมหายใจรวยริน ยังตายไม่สนิททีเดียว
ผมจะขอวกกลับมากล่าวถึงอีกมุมหนึ่งของสิงห์เหนือ สิงห์ตัวนี้เดิมเป็นสิงห์ที่สงบเสงี่ยมตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ล้มลุกคลุกคลานมาหลายรอบ อาศัยที่มีนางสิงห์เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจ มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน จนประสบกับความสำเร็จ สามารถยืนอยู่ในระดับแนวหน้าของหมู่เสือสิงห์กระทิงแรดได้อย่างผงาด มีทรัพย์สินเงินทองล้นฟ้า จะเป็นรองไม่กี่คน
ดังกล่าวมาแล้ว เมื่อเงินล้นจึงหันมาแสวงหาอำนาจอันไม่มีใครไม่ต้องการ ด้วยเงินมากมายมหาศาลจึงก้าวเข้ามายืนอยู่บนถนนอำนาจไม่ยาก มีข้าทาษบริวารที่เป็นสิงห์เฒ่าสิงหนุ่มมาเข้าสังกัดไม่น้อย ยิ่งนับวันยิงมีพลังเป็นทวีคูณ