ชีวิตแผ่นเสียงตกร่อง
เณร อยู่นาน บรรยาย
เรื่องที่ผมจะเขียนหรือบรรยายต่อไปนี้ ดูว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้สาระเอามาก ๆ แต่เมื่ออุตส่าห์เขียนแล้ว ขอท่านลองอ่านดูก็แล้วกัน
เพราะตอนนี้ - โดยเฉพาะที่กำลังนั่งเขียนอยู่นี้ ผมเปิดแอร์เต็มพิกัด นุ่งกางเกงชาวเลตัวเดียว เสื้อยืดหรือเสื้อลำลองอยู่กับบ้าน ไม่รู้จักกับผมมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษา - ผมกำลังขัดสนวัตถุดิบมายกเมฆให้ท่านอ่านครับ
เมื่อเป็นดังนี้ผมก็เอาเรื่องใกล้ตัวที่สุดมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อท่านที่เคยอ่านข้อเขียนของผมจะคลายร้อนได้บ้าง เรื่องดังกล่าวก็คงจะเป็นเรื่องของท่านผู้อ่านไปไม่ได้ ต้องเป็นของผมแน่เสียยิ่งกว่าแน่
เนื่องจากผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีระเบียบมานาน นับตั้งแต่มาเป็นหมอดู วันไหนขยันตื่นนอนเร็ว วันไหนขึ้เกียจก็ตื่นสาย คือกินนอนและตื่นไม่เป็นเวลา ถ้าต้องตื่นเช้า จะลงไปข้างล่าง หาหนังสือพิมพ์วันนั้นมาอ่าน เพราะผมนอนชั้นบน วางเตียงนอนไว้ริมหน้าต่างบานใหญ่สามบาน
ดังนั้น ในภาคดึกอากาศดีมาก ลมโชยเข้ากระทบผิวกายกำลังพอดี ๆ ไม่ต้องใช้แอร์เครื่อง ใช้แอร์ธรรมชาติประหยัดดี วันไหนลมพัดแรงหน่อย หน้าต่างทั้งสามบานจะแข่งกันร้องเพลงกล่อมดังเอี๊ยดอ๊าดผมนอนฟังจนหลับ
ที่ชอบที่สุดถ้ายิ่งมีละอองฝนผสมลมบ้างเล็กน้อย ผมยิ่งหลับสนิท ถ้าคืนไหนขาดลมผมจะใช้พัดลมโกรกแทนจนสว่าง
โรคประจำตัวอย่างหนึ่งของผมคือนอนไม่ค่อยหลับ อย่างจะหลับก็ซักชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเป็นอย่างมาก คืนหนึ่งตื่นเข้าห้องน้ำไม่ต่ำกว่า 3-4 รอบ ทุกวันนี้การแก้การนอนไม่ค่อยหลับของผม มียาอยู่ 2 ขนานที่มักนำมาใช้เป็นประจำ ขนานแรกคือสูบบุหรี่ ผมจะมีบุหรี่ใส่กระป๋องไว้สองซอง และไป๊ยาสูบอีกหนึ่งอัน เบื่อบุหรี่สูบไป๊ เบื่อไป๊สูบบุหรี่ อัดแรง ๆ ไม่กี่ครั้งก็จะนอนหลับสนิท ดังนั้นการจะไปนอนบ้านคนอื่นจึงเป็นการทรมานอย่างหฤโหดสำหรับผม
ไม่ว่าคืนตื่นเช้าหรือสาย ผมจะลงไปข้างล่างที่ห้องทำงาน หยิบหนังสือพิมพ์รายวันขึ้นไปอ่านบนเตียงนอน การอ่านหนังสือพิมพ์ของผม ก็เอาแน่ไม่ได้ บางเรื่องอ่านละเอียด บางเรื่องก็แค่ตรวจสอบลวก ๆ ยิ่งเรื่องการเมืองในสภา พวกนักการเมืองประชุมแต่ละคราว แม่ค้าปากคลองยังอาย กัดกันเหมือนหมา อ่านจบก็จะหลับไปอีกงีบ
เก้าโมงโดยประมาณ คนในบ้านออกไปทำงานกันหมด ผมจึงลงมาข้างล่าง สำรวจดูอาหารที่ค้างมาจากวันวานในตู้เย็น ถ้ามีก็เอามาอุ่นเพื่อเตรียมไว้มื้อเช้า หรือไม่ก็เป็นมื้อกลางวัน หรือมื้อบ่าย เอาแน่นอนไม่ได้ บางวันเช้าผมแทนด้วยกาแฟบ้าง โอวัลตินบ้างสุดแต่ความสะดวกและมีอยู่ในขณะที่หิว
ถ้าไม่มีอาหารเหลือ ก็รอรถขายกับข้าว ซื้อกับข้าวมาทำเอง รสชาติประทับใจบ้างไม่ประทับใจบ้าง ถือว่ายามหิวกินได้ทั้งนั้น อีกอย่าง ไม่ว่าอาหารอะไรที่ว่ารสเลิศ พอเลยโคนลิ้นไปแล้วรสชาติก็เหมือนกัน?
หลังจากอาหารเช้า ถ้ามีนัดกับลูกค้า หรือศิษย์ ผมจะอาบน้ำแต่งตัวนุ่งกางเกงขาสั้นหรือไม่ก็กางเกงชาวเลเสื้อยืดพาดบ่า แขกมาเคาะประตูจึงรีบสรวมเสื้อให้เรียบร้อย บางครั้งก็สรวมไม่ทัน เพราะเขามาเร็วกว่าเวลานัด แต่ก็ไม่ค่อยอายใครสักเท่าไหร่ เพราะถือว่าแก่ขนาดเหี่ยวแล้วเหี่ยวอีกอย่างผม คงไม่อยู่ในสายตาใคร
บางวันดาวประจำตัวดีได้รับโทรศัพท์จากแขกหรือลูกค้า บางทีก็ศิษย์ว่าจะมาหารับไปกินข้าวนอกบ้าน วันไหนที่ได้ออกไปกินข้าวนอกบ้าน วันนั้นผมจะถือว่าเป็นวันอัครมหาลาภ ดีใจกว่าได้เงินเสียอีกโดยมากไปทางชลบุรีเพราะบ้านผมไปง่าย คนขับก็ไม่เครียด ขับไปคุยไป บางทีไม่ทันจบเรื่องก็ถึงแล้ว แต่บางเที่ยวผมบินเดี่ยว มีอยู่คราวหนึ่งที่บุญก้อนใหญ่หล่นทับ ศิษย์หญิงสองคนพาไปกินในเมือง ที่โรงแรมห้าดาวสี่แยกราชประสงค์ ผมฟาดชีสของโปรดเสียหลายชิ้น ให้สมกับที่ในชีวิต ครั้งนี้เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าไปในสถานที่หรู ๆ
ทุกวันนี้การไปไหนมาไหน ไม่ว่าในเมืองหรือนอกเมือง ผมจะพกกล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วยเสมอ นอกจากกล้องยังมีอุปกรณ์สำรอง เช่นแบตเตอรี่ การ์ดภาพ เข็มทิศ กล้องส่องทางไกล เอาไว้ยามต้องการ จะได้หยิบฉวยมาใช้ได้ทันท่วงที
การมีกล้องคอยบันทึกภาพผมถือว่าเป็นการบันทึกความทรงจำที่ดีและรวดเร็ว ทั้งยังสมบูรณ์ที่สุด บางภาพเมื่อ 50 กว่าปีมาแล้วผมยังเก็บไว้ดูเลย
แต่ก็มีเหมือนกันที่ต้องประจำการอยู่กับบ้านนานเกิน รู้สึกเครียด ครั้นจะชวนคนวัยเดียวกัน ก็หายากเต็มที จะชวนลูกค้าหรือศิษย์ก็เกรงใจ เพราะนอกจากเขาต้องขับรถแล้วยังต้องเสียค่าแก๊สค่าอาหารเอง เปล่าหรอกครับ ผมมิใช่เป็นคนประเภทเอาแต่ได้ เสียไม่เอา แต่ความไวเขาเหนือกว่าเท่านั้น
ปัญหานี้ผมเคยแก้กับศิษย์ที่ระยองคนหนึ่ง ไปกินเที่ยวกันทีไรเขาไม่ยอมท่าเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่งผมแก้ด้วยการ พอไปถึงร้านอาหารรีบวางประกันกับทางร้านไว้ก่อนพอเรียกเก็บเงิน เขาก็จะมาพร้อมเงินทอน แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันนาน ไม่ทราบว่าศิษย์รายนี้ยังอยู่ดีมีสุขหรืออย่างไร
ครับผมว่าการกินการเที่ยวหรือทำอะไร ถ้าได้ช่วยกัน การให้มีส่วน จะทำให้รู้สึกสบายใจด้วยกันทุกคน
ทุกวันนี้ผมมีเพื่อนน้อยลงทุกที วันก่อนไปงานเดือนสิบที่สมุย ก็ร่วงไปอีกสองคน ที่นับเป็นเพื่อนจริงจริงวัยเดียวกันหรือไล่เลี่ยกัน ต่างคนต่างได้ดิบได้ดีกันไปหมด นั่งกินนอนกินกัน คือนั่งบนรถเข็น หรือนอนกินบนเตียงนอน เรียกว่าเพื่อนกินหายากแต่เพื่อนตายหาง่าย เพราะตายถี่ขึ้น ยังไม่รู้รอบไหนจะมาถึงผมบ้าง แต่คิดว่าคงไม่นานเกินรอหรอกครับ ทุกวันนี้ชีวิตประจำวันผมเหมือนกันเกือบทุกวันราวกับก๊อบปี้ อย่างที่พวกนักการเมืองเรียกว่าแผ่นเสียงตกร่องนั่นเอง ย่ำอยู่กับที่ ไม่มีอะไรใหม่ขึ้นมา ไม่ทราบว่าท่านผู้อ่านที่รักเป็นเหมือนผมบ้างหรือเปล่า